ตำแหน่งที่1 : หู
ต้องเป็นขอบชีส ติ่งหูใหญ่ ลูกหลานเชื่อฟัง
หู คือ อวัยวะส่วนแรกของการดูโหงวเฮ้งค่ะ ซึ่งหมอดูโหวงเฮ้งของเราบอกว่า ต้องขอบหูใหญ่ๆ หนาๆ เหมือนขอบชีสของพิซซ่า ถึงจะดี ซึ่งหูนี้บอกได้ถึงเรื่องชีวิตในวัยเด็กว่าเป็นอย่างไร ขณะที่ติ่งหู จะเป็นการทำนายได้ว่าลูกหลานจะกตัญญูหรือไม่
“อันดับแรกของการดูโหงวเฮ้งก็คือ ต้องดูหูก่อน คนไหนถ้าขอบหูหนาๆ ใหญ่ๆ ให้นึกถึงพิซซ่าขอบชีส ซึ่งบ่งบอกว่าคนๆ นั้นมีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าขอบหูบางๆ ไม่มีขอบ เมื่อวัยเด็กจะมีปัญหาอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ สุขภาพอาจจะไม่ค่อยแข็งแรงในวัยเด็ก อาจจะป่วยไม่สบายบ่อย, อาจต้องพลัดพรากจากบ้านเกิด, และความรักจากพ่อแม่ก็อาจจะมีจำกัด เช่น พ่อแม่อาจรับราชการ แต่ตัวเองต้องไปอยู่กับญาติ พี่ป้า น้าอา
แต่คนไหนถ้าขอบหูด้านใน หรือกระดูกอ่อนด้านข้างหู พลิกออกมา จะเป็นคนพูดจาตรงๆ ขวานผ่าซาก บางทีพูดจาแบบฉันไม่สนใจ ฉันพูดเรื่องจริง แต่บางครั้งพอพูดไปแล้ว ก็มานั่งคิดว่า ไม่น่าพูดคำนั้นออกไปเลยนะ
ส่วนคนไหนที่มีติ่งหูยาวสวย (คล้ายติ่งหูพระพุทธรูป) แบบนี้ลูกจะรักจะเชื่อฟัง ลูกหลานจะกตัญญู เพราะว่าหูก็คือดึงลูกเข้ามาใกล้ชิดในบั้นปลายชีวิต แต่บางคนติ่งหูไม่ค่อยมี ก็จะบอกได้ว่า หนึ่ง-มีลูกยาก สอง-ถึงแม้มีลูก ลูกก็จะไม่ใกล้ชิดมาก ถ้าไม่ค่อยมีติ่งหูแบบนี้ต้องเลี้ยงลูกแบบเพื่อน”
ต้องเป็นขอบชีส ติ่งหูใหญ่ ลูกหลานเชื่อฟัง
หู คือ อวัยวะส่วนแรกของการดูโหงวเฮ้งค่ะ ซึ่งหมอดูโหวงเฮ้งของเราบอกว่า ต้องขอบหูใหญ่ๆ หนาๆ เหมือนขอบชีสของพิซซ่า ถึงจะดี ซึ่งหูนี้บอกได้ถึงเรื่องชีวิตในวัยเด็กว่าเป็นอย่างไร ขณะที่ติ่งหู จะเป็นการทำนายได้ว่าลูกหลานจะกตัญญูหรือไม่
“อันดับแรกของการดูโหงวเฮ้งก็คือ ต้องดูหูก่อน คนไหนถ้าขอบหูหนาๆ ใหญ่ๆ ให้นึกถึงพิซซ่าขอบชีส ซึ่งบ่งบอกว่าคนๆ นั้นมีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าขอบหูบางๆ ไม่มีขอบ เมื่อวัยเด็กจะมีปัญหาอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ สุขภาพอาจจะไม่ค่อยแข็งแรงในวัยเด็ก อาจจะป่วยไม่สบายบ่อย, อาจต้องพลัดพรากจากบ้านเกิด, และความรักจากพ่อแม่ก็อาจจะมีจำกัด เช่น พ่อแม่อาจรับราชการ แต่ตัวเองต้องไปอยู่กับญาติ พี่ป้า น้าอา
แต่คนไหนถ้าขอบหูด้านใน หรือกระดูกอ่อนด้านข้างหู พลิกออกมา จะเป็นคนพูดจาตรงๆ ขวานผ่าซาก บางทีพูดจาแบบฉันไม่สนใจ ฉันพูดเรื่องจริง แต่บางครั้งพอพูดไปแล้ว ก็มานั่งคิดว่า ไม่น่าพูดคำนั้นออกไปเลยนะ
ส่วนคนไหนที่มีติ่งหูยาวสวย (คล้ายติ่งหูพระพุทธรูป) แบบนี้ลูกจะรักจะเชื่อฟัง ลูกหลานจะกตัญญู เพราะว่าหูก็คือดึงลูกเข้ามาใกล้ชิดในบั้นปลายชีวิต แต่บางคนติ่งหูไม่ค่อยมี ก็จะบอกได้ว่า หนึ่ง-มีลูกยาก สอง-ถึงแม้มีลูก ลูกก็จะไม่ใกล้ชิดมาก ถ้าไม่ค่อยมีติ่งหูแบบนี้ต้องเลี้ยงลูกแบบเพื่อน”
ตำแหน่งที่2 : หน้าผาก และขมับ
สามีเลี้ยงดูปูเสื่อดีแค่ไหน ดูกันตรงนี้
สามีเลี้ยงดูปูเสื่อดีแค่ไหน ดูกันตรงนี้
“หน้าผากสูงๆ เป็นคนที่ขวนขวายหาความรู้ วิสัยทัศน์ที่กว้างไกล การยอมรับ เรียกได้ว่าคนแบบนี้ส่วนใหญ่ปริญญาใบเดียวไม่พอ แต่หากมีหน้าผากกว้าง แสดงว่าการเลี้ยงดูจากครอบครัวคุณดี อุดมสมบูรณ์” อ.สุวิมล อธิบายต่อในส่วนของขมับว่า เป็นส่วนที่บอกได้ว่าคู่ครองจะดูแลเราดีแค่ไหน โดยแบ่งได้ 3 ระดับของการดูแลคือ แบบค็อกเทล แบบบุฟเฟ่ต์ และแบบโต๊ะจีน อ.เปรียบเทียบซะเก๋เชียว แถมได้ความหมายชัดเจนด้วยค่ะ
หน้าผาก แคบ และบุบ สาวๆ ที่มีหน้าผากแบบนี้ถ้าได้สามีเลี้ยงแบบ “ค็อกเทล” นั่นคือ โต๊ะให้นั่งก็ไม่มี ต้องลุกไปจิ้มกินเอง หากินเอง เรียกได้ว่า หากคิดจะอิ่มท้องอยู่สบาย ก็ต้องพึ่งลำแข้งตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่
ขมับกว้าง แต่บุบเข้าไปบ้าง ถ้า มีหน้าผากแบบนี้ จะได้รับการเลี้ยงดูแบบ “บุฟเฟ่ต์” แบบนี้จะดีกว่าคอกเทลนะคะ เพราะอย่างน้อยก็ยังมีโต๊ะให้นั่ง มีของให้กินเยอะกว่า อันนี้ประมาณว่า สามีดูแลดีระดับปานกลางค่ะ อาจไม่หรูหรา แต่ก็กินอิ่มนอนหลับ
หน้าผากเต็ม กว้าง อิ่มเอิบ บรรดาสาวหน้าใหญ่ที่มักบ่นว่า ตัวเองหน้ากลม หน้าผากกว้าง ได้มีเฮ ก็คราวนี้เพราะตามหลักโหวงเฮ้งแล้ว หน้าผากแบบนี้ (แบบที่เหมือนอาซ้อร้านทองทั่วไปเป็น) เค้าเรียกว่าสามีจะเลี้ยงแบบ “โต๊ะจีน” มีมาเสิร์ฟถึงที่ กินได้อุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่า สามีเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เอาอกเอาใจเป็นที่สุด … น่าอิจฉาซะ!
อะฮ้า สาวๆ เจ้าของหน้าผากแคบ อย่าเพิ่งน้อยอกน้อยใจในวาสนานะคะ อ.ฝากบอกว่า ถ้ารู้ว่าอะไรไม่ ก็ทำใจ และเตรียมปรับตัวดีกว่าค่ะ
“พอเรารู้แบบนี้ เราจะได้ไม่ต้องเครียดมานั่งคิดว่า ทำไมสามีไม่ค่อยดูแล เขามีคนอื่นมั้ย ไม่ใช่ค่ะ แต่เป็นเพราะว่าขมับของเราแคบ ไม่สามารถดึงให้เขามาเอาใจเราได้ ดังนั้นเราต้องยอมรับ แล้วด้วยนิสัยของบางคน ก็อาจจะเป็นคนเก่ง ชอบดูแลตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาเจ๊าะแจ๊ะดูแลมากมายอยู่แล้ว ถ้าสามีไม่มาวอแวมาก อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ”
อ.ยังแนะให้ทำผมเปิดหน้าผากด้วยค่ะ
“เรื่องการทำผม ที่ว่าต้องพยายามเปิดหน้าผาก อันนั้นเรื่องจริงค่ะ เพราะหน้าผากเราก็เหมือนฟ้า คนจีนแมนจู กร้อนผมไปครึ่งกระหม่อมเลย อย่างนั้นเขาเรียกว่าฟ้าเปิด ตามหลักลูกหลานคนจีนมักจะให้เปิดผม เพื่อเปิดฟ้า เปิดความสว่างให้ชีวิต”
หน้าผาก แคบ และบุบ สาวๆ ที่มีหน้าผากแบบนี้ถ้าได้สามีเลี้ยงแบบ “ค็อกเทล” นั่นคือ โต๊ะให้นั่งก็ไม่มี ต้องลุกไปจิ้มกินเอง หากินเอง เรียกได้ว่า หากคิดจะอิ่มท้องอยู่สบาย ก็ต้องพึ่งลำแข้งตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่
ขมับกว้าง แต่บุบเข้าไปบ้าง ถ้า มีหน้าผากแบบนี้ จะได้รับการเลี้ยงดูแบบ “บุฟเฟ่ต์” แบบนี้จะดีกว่าคอกเทลนะคะ เพราะอย่างน้อยก็ยังมีโต๊ะให้นั่ง มีของให้กินเยอะกว่า อันนี้ประมาณว่า สามีดูแลดีระดับปานกลางค่ะ อาจไม่หรูหรา แต่ก็กินอิ่มนอนหลับ
หน้าผากเต็ม กว้าง อิ่มเอิบ บรรดาสาวหน้าใหญ่ที่มักบ่นว่า ตัวเองหน้ากลม หน้าผากกว้าง ได้มีเฮ ก็คราวนี้เพราะตามหลักโหวงเฮ้งแล้ว หน้าผากแบบนี้ (แบบที่เหมือนอาซ้อร้านทองทั่วไปเป็น) เค้าเรียกว่าสามีจะเลี้ยงแบบ “โต๊ะจีน” มีมาเสิร์ฟถึงที่ กินได้อุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่า สามีเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เอาอกเอาใจเป็นที่สุด … น่าอิจฉาซะ!
อะฮ้า สาวๆ เจ้าของหน้าผากแคบ อย่าเพิ่งน้อยอกน้อยใจในวาสนานะคะ อ.ฝากบอกว่า ถ้ารู้ว่าอะไรไม่ ก็ทำใจ และเตรียมปรับตัวดีกว่าค่ะ
“พอเรารู้แบบนี้ เราจะได้ไม่ต้องเครียดมานั่งคิดว่า ทำไมสามีไม่ค่อยดูแล เขามีคนอื่นมั้ย ไม่ใช่ค่ะ แต่เป็นเพราะว่าขมับของเราแคบ ไม่สามารถดึงให้เขามาเอาใจเราได้ ดังนั้นเราต้องยอมรับ แล้วด้วยนิสัยของบางคน ก็อาจจะเป็นคนเก่ง ชอบดูแลตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาเจ๊าะแจ๊ะดูแลมากมายอยู่แล้ว ถ้าสามีไม่มาวอแวมาก อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ”
อ.ยังแนะให้ทำผมเปิดหน้าผากด้วยค่ะ
“เรื่องการทำผม ที่ว่าต้องพยายามเปิดหน้าผาก อันนั้นเรื่องจริงค่ะ เพราะหน้าผากเราก็เหมือนฟ้า คนจีนแมนจู กร้อนผมไปครึ่งกระหม่อมเลย อย่างนั้นเขาเรียกว่าฟ้าเปิด ตามหลักลูกหลานคนจีนมักจะให้เปิดผม เพื่อเปิดฟ้า เปิดความสว่างให้ชีวิต”
ตำแหน่งที่3 : ตา
ตาโปนอาภัพคู่ ตาเล็กเฉียงขึ้นได้สามีดีนักเชียว
“ดวงตา เป็นหน้าต่างของดวงใจ ตาขาวต้องขาวสดใส ตาดำต้องดำเป็นนิล ถึงแม้เป็นฝรั่งตาน้ำข้าว จะตาสีฟ้า ก็ต้องฟ้าใส ต้องดูสดใส และรูปลักษณ์ในดวงตาก็บ่งบอกถึงชีวิตคู่ได้ ผู้หญิงคนไหน ถ้าตาโตๆ โปนเหมือนปลาทอง จะเป็นคนที่อาภัพความรัก ได้คู่ก็ไม่ได้คู่ที่ทำให้สบายใจ”
แต่แม่สาวตาปลาทองทั้งหลาย อย่าเพิ่งเศร้าไปค่ะ เพราะ อ.แม่ของเราบอกว่าแก้ไขได้ ทว่าต้องจำหลัก 3 ประการไว้ให้มั่น นั่นคือ แต่งงานอายุ 30 อัพ /แต่งกับพ่อหม้าย /แต่งกับหนุ่มอายุห่างจากเราเกิน 1 รอบ
“คนตาโปนถ้าอยากมีคู่ดี วิธีแก้ก็คือ หนึ่ง-ต้องแต่งงานให้ถูกหลักการ หมายถึงต้องแต่งงานหลังอายุ 30 ไปแล้ว สอง-แต่งงานกับผู้ชายที่อายุแก่กว่าเรา 1 รอบ สาม-แต่งงานกับผู้ชายที่เป็นพ่อหม้ายก็ได้
อย่าง "คุณกบ" ปภัสรา เตชะไพบูลย์ ถึงเขาจะมีตาโปน แต่เขาแต่งงานถูกหลักการ เขาได้สามีอายุเยอะ เป็นพ่อหม้าย ตอนนี้ก็กลายเป็นคุณนายกบไปแล้ว หรือ "คุณปุ๋ย" พรทิพย์ นาคหิรัญกนก ตอนได้คนที่อายุไล่เลี่ยกัน ก็เลิกลากันไป แต่พอไปได้สามีอายุ 60 เดี๋ยวนี้คุณปุ๋ยสบายเลย ดังนั้นถ้าคุณตาโปน คุณต้องยึดหลัก 3 อย่างนี้ไว้ แต่ถ้าคุณตาโปน แล้วคุณไปแต่งงานกับผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกัน พูดได้เลย 99% ไม่จากเป็น ก็จากตาย”
แล้วตาแบบไหนที่เรียกว่าดีล่ะคะ?
“รูปนัยน์ตาต้องเฉียงขึ้น หางตาเฉียงขึ้นมา แต่บางคนเฉียงขึ้นแล้วโปน ก็ไม่ได้ ต้องเฉียงขึ้นแล้วตาเล็กๆ ด้วย ตาลูกคนจีนดีที่สุด อาหมวยนี่แหล่ะดีที่สุด ส่วนตาชั้นเดียวหรือสองชั้นไม่จำเป็น ขอแค่รูปนัยน์ตาเรียวเล็ก และแววตาต้องมีประกายสดใสด้วย และหากเราไปมองตาใคร แล้วเราต้องหลบตาเขา แสดงว่าดวงตาของคนนั้นมีอำนาจ มีพลังแห่งชีวิต ถือเป็นโหวงเฮ้งที่ดี
อีกอย่างคือ ตามีเสน่ห์ ซึ่งอันนี้ไม่ใช่อยู่ที่นัยน์ตา แต่อยู่ที่แววตาค่ะ ผู้หญิงที่แววตามีเสน่ห์ จะมีผู้ชายเข้ามาพัวพันเจ๊าะแจ๊ะตลอด หนีไม่พ้น แต่มาแล้วก็ผ่านไป ซึ่งตาผู้หญิงที่มีเสน่ห์ ก็จะหยาดเยิ้ม เหมือนอย่าง "คุณพลอย" เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ น่ะค่ะ ตาเธอจะหวานเยิ้ม มีเสน่ห์”
ตาโปนอาภัพคู่ ตาเล็กเฉียงขึ้นได้สามีดีนักเชียว
“ดวงตา เป็นหน้าต่างของดวงใจ ตาขาวต้องขาวสดใส ตาดำต้องดำเป็นนิล ถึงแม้เป็นฝรั่งตาน้ำข้าว จะตาสีฟ้า ก็ต้องฟ้าใส ต้องดูสดใส และรูปลักษณ์ในดวงตาก็บ่งบอกถึงชีวิตคู่ได้ ผู้หญิงคนไหน ถ้าตาโตๆ โปนเหมือนปลาทอง จะเป็นคนที่อาภัพความรัก ได้คู่ก็ไม่ได้คู่ที่ทำให้สบายใจ”
แต่แม่สาวตาปลาทองทั้งหลาย อย่าเพิ่งเศร้าไปค่ะ เพราะ อ.แม่ของเราบอกว่าแก้ไขได้ ทว่าต้องจำหลัก 3 ประการไว้ให้มั่น นั่นคือ แต่งงานอายุ 30 อัพ /แต่งกับพ่อหม้าย /แต่งกับหนุ่มอายุห่างจากเราเกิน 1 รอบ
“คนตาโปนถ้าอยากมีคู่ดี วิธีแก้ก็คือ หนึ่ง-ต้องแต่งงานให้ถูกหลักการ หมายถึงต้องแต่งงานหลังอายุ 30 ไปแล้ว สอง-แต่งงานกับผู้ชายที่อายุแก่กว่าเรา 1 รอบ สาม-แต่งงานกับผู้ชายที่เป็นพ่อหม้ายก็ได้
อย่าง "คุณกบ" ปภัสรา เตชะไพบูลย์ ถึงเขาจะมีตาโปน แต่เขาแต่งงานถูกหลักการ เขาได้สามีอายุเยอะ เป็นพ่อหม้าย ตอนนี้ก็กลายเป็นคุณนายกบไปแล้ว หรือ "คุณปุ๋ย" พรทิพย์ นาคหิรัญกนก ตอนได้คนที่อายุไล่เลี่ยกัน ก็เลิกลากันไป แต่พอไปได้สามีอายุ 60 เดี๋ยวนี้คุณปุ๋ยสบายเลย ดังนั้นถ้าคุณตาโปน คุณต้องยึดหลัก 3 อย่างนี้ไว้ แต่ถ้าคุณตาโปน แล้วคุณไปแต่งงานกับผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกัน พูดได้เลย 99% ไม่จากเป็น ก็จากตาย”
แล้วตาแบบไหนที่เรียกว่าดีล่ะคะ?
“รูปนัยน์ตาต้องเฉียงขึ้น หางตาเฉียงขึ้นมา แต่บางคนเฉียงขึ้นแล้วโปน ก็ไม่ได้ ต้องเฉียงขึ้นแล้วตาเล็กๆ ด้วย ตาลูกคนจีนดีที่สุด อาหมวยนี่แหล่ะดีที่สุด ส่วนตาชั้นเดียวหรือสองชั้นไม่จำเป็น ขอแค่รูปนัยน์ตาเรียวเล็ก และแววตาต้องมีประกายสดใสด้วย และหากเราไปมองตาใคร แล้วเราต้องหลบตาเขา แสดงว่าดวงตาของคนนั้นมีอำนาจ มีพลังแห่งชีวิต ถือเป็นโหวงเฮ้งที่ดี
อีกอย่างคือ ตามีเสน่ห์ ซึ่งอันนี้ไม่ใช่อยู่ที่นัยน์ตา แต่อยู่ที่แววตาค่ะ ผู้หญิงที่แววตามีเสน่ห์ จะมีผู้ชายเข้ามาพัวพันเจ๊าะแจ๊ะตลอด หนีไม่พ้น แต่มาแล้วก็ผ่านไป ซึ่งตาผู้หญิงที่มีเสน่ห์ ก็จะหยาดเยิ้ม เหมือนอย่าง "คุณพลอย" เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ น่ะค่ะ ตาเธอจะหวานเยิ้ม มีเสน่ห์”
*TIPS ตาแบบไหน ต้องระวัง หลีกให้ไกล!
ตาลอย อ.สุวิมลอธิบายคนลักษณะตาลอยว่า
“คนตาลอยจะมีลักษณะแบบตาดำเขา จะลอยขึ้น แล้วเห็นตาขาว 3 ด้าน คือ มุมซ้าย มุมขวา แล้วก็ด้านล่าง เหมือนกับตาดำลอยอยู่ข้างบน ซึ่งคนตาแบบนี้บ่งบอกได้ว่า เป็นคนที่ไม่มีน้ำใจ ทำดีแค่ไหน ถ้าคุณทำผิดแค่ครั้งเดียว เขาไม่เอาคุณเลย และจะเป็นเรื่องของการตายแบบตายร้าย บางคนก็กระโดดตึกตาย ฆ่าตัวตาย”
อ.แนะติดตลกแต่จริงว่า หากเวลาไปเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ เจอคนตาลอยอยู่ในกรุ๊ปทัวร์ จงเลี่ยงไม่ไปเลยดีกว่า เพราะเดี๋ยวเจออุบัติเหตุร่วมเคราะห์ไปด้วย หุหุ
ตาสามเหลี่ยม คนที่ตาสามเหลี่ยม เป็นชั้นขึ้นมา เป็นลักษณะ 3 เหลี่ยม คนแบบนี้ถือว่าเป็นคนฉลาด เก่ง มองการณ์ไกล สุขุม รอบคอบ แต่ต้องระวัง ..ถ้าตาสามเหลี่ยมแล้ว มีคิ้วสามเหลี่ยมด้วย ประกอบกับแววตาก็มีเลศนัยอีก แบบนี้ อ.สุวิมลบอกว่า คบลำบากค่ะ เพราะจะเป็นพวกคนมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ เราอาจตามไม่ทัน โดนเขาหลอกได้ง่ายๆ
ตาเหยี่ยว เช่น กันค่ะ ตาเหยี่ยวแล้วเฉียงสูงขึ้น เป็นลักษณะของตาคนที่ไม่ค่อยมีความจริงใจให้ใคร และมักเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นเสมอ แต่เดี๋ยวค่ะ! อย่าเพิ่งมองคนตาเหยี่ยวในแง่ร้ายเสมอไปค่ะ เพราะอ.สุวิมลย้ำว่า สิ่งสำคัญในการมองตาคนก็คือ ดูแววตาเป็นส่วนประกอบ ถ้าเพื่อนซี้ หรือคนใกล้ตัวคุณ มีตาเหมือนเหยี่ยว แต่แววตาอ่อนโยน เป็นประกายสดใส ...ยกเว้นได้ค่ะ
ทว่าหากตาเหมือนเหยี่ยว แถมแววตาดุร้ายสุดๆ ต้องระวังม้ากมากเลยค่ะ
ตาลอย อ.สุวิมลอธิบายคนลักษณะตาลอยว่า
“คนตาลอยจะมีลักษณะแบบตาดำเขา จะลอยขึ้น แล้วเห็นตาขาว 3 ด้าน คือ มุมซ้าย มุมขวา แล้วก็ด้านล่าง เหมือนกับตาดำลอยอยู่ข้างบน ซึ่งคนตาแบบนี้บ่งบอกได้ว่า เป็นคนที่ไม่มีน้ำใจ ทำดีแค่ไหน ถ้าคุณทำผิดแค่ครั้งเดียว เขาไม่เอาคุณเลย และจะเป็นเรื่องของการตายแบบตายร้าย บางคนก็กระโดดตึกตาย ฆ่าตัวตาย”
อ.แนะติดตลกแต่จริงว่า หากเวลาไปเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ เจอคนตาลอยอยู่ในกรุ๊ปทัวร์ จงเลี่ยงไม่ไปเลยดีกว่า เพราะเดี๋ยวเจออุบัติเหตุร่วมเคราะห์ไปด้วย หุหุ
ตาสามเหลี่ยม คนที่ตาสามเหลี่ยม เป็นชั้นขึ้นมา เป็นลักษณะ 3 เหลี่ยม คนแบบนี้ถือว่าเป็นคนฉลาด เก่ง มองการณ์ไกล สุขุม รอบคอบ แต่ต้องระวัง ..ถ้าตาสามเหลี่ยมแล้ว มีคิ้วสามเหลี่ยมด้วย ประกอบกับแววตาก็มีเลศนัยอีก แบบนี้ อ.สุวิมลบอกว่า คบลำบากค่ะ เพราะจะเป็นพวกคนมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ เราอาจตามไม่ทัน โดนเขาหลอกได้ง่ายๆ
ตาเหยี่ยว เช่น กันค่ะ ตาเหยี่ยวแล้วเฉียงสูงขึ้น เป็นลักษณะของตาคนที่ไม่ค่อยมีความจริงใจให้ใคร และมักเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นเสมอ แต่เดี๋ยวค่ะ! อย่าเพิ่งมองคนตาเหยี่ยวในแง่ร้ายเสมอไปค่ะ เพราะอ.สุวิมลย้ำว่า สิ่งสำคัญในการมองตาคนก็คือ ดูแววตาเป็นส่วนประกอบ ถ้าเพื่อนซี้ หรือคนใกล้ตัวคุณ มีตาเหมือนเหยี่ยว แต่แววตาอ่อนโยน เป็นประกายสดใส ...ยกเว้นได้ค่ะ
ทว่าหากตาเหมือนเหยี่ยว แถมแววตาดุร้ายสุดๆ ต้องระวังม้ากมากเลยค่ะ
ตำแหน่งที่4 : จมูก
อวัยวะสำคัญ บ่งบอกเรื่องคู่ และหลักทรัพย์
อวัยวะสำคัญ บ่งบอกเรื่องคู่ และหลักทรัพย์
“จมูกเหยี่ยวก็คือ ปลายจมูกงอลงมาเหมือนตะขอ พวกนี้เป็นคนที่เรียกว่า เขาทำงานเพื่อตัวเขาเอง ไม่จริงใจกับใคร ยิ่งจมูกเหยี่ยวงุ้มจิกลงมาเหมือนจมูกนกแก้ว ยิ่งน่ากลัว พวกนี้ไม่มีน้ำใจ ถ้าเป็นผู้ชาย เขาเรียกว่าพวกทับไม่ร้อง ท้องไม่รับ อย่าไปตามหาตัวเขาให้ยาก เพราะเขาจะรู้จักหลบหลีกอยู่ เราก็จับตัวเขายาก เขาเป็นคนที่ทันเกมทันคน รู้จักหลบหลีก” เอ้า! สาวๆ ได้ยินอย่างนี้แล้ว เจอหนุ่มที่เข้ามาป่วนเปี้ยนมีจมูกแบบนี้เมื่อไหร่ ต้องพิจารณาให้หนักหน่อยนะคะ
ผู้เชี่ยวชาญด้านโหงวเฮ้งบอกกับเราด้วยว่า ‘จมูก’ในมุมมองของโหงวเฮ้งชาวจีนนั้น บ่งบอกถึงเรื่องหลักทรัพย์ได้เป็นอย่างดีค่ะ
“จมูกของคนจีน เขาเรียกว่าหลักทรัพย์บนใบหน้า จมูกคนเราถ้าให้ดีในช่วงปลายต้องกลมๆ ใหญ่ๆ หนาๆ อย่างนี้ดี เหมือนเจ้าสัวซีพี (ธนินท์ เจียรวนนท์) เพราะคนที่ปีกจมูกใหญ่ๆ อิ่มหนา เราเรียกว่ามีแต่เงินกูอย่างเดียว แต่คนไหนถ้าจมูกตีบๆ เล็กบาง นี่เงินกู้อย่างเดียว ไปดูพวกเจ้าสัวสิ จมูกจะใหญ่ๆ หน้าใหญ่ออกมาเลย ถ้าจะเลือกเลือกคู่ชีวิตอยู่ด้วยแล้วสบายๆ จงเลือกผู้ชายที่ใบหน้าเต็มๆ ใหญ่ๆ จะถือว่าดี แต่ถ้าหน้าตรอบๆ เล็กๆ พวกนี้จะเป็นผู้จัดการ เป็นหลงจู๊ ไม่ได้เป็นเถ้าแก่
ส่วนสันจมูกต้องกว้างด้วยค่ะ เหมือนเราปีนภูเขาน่ะ ถ้าเราปีนภูเขาแล้วมีเนินที่สบายๆ เราก็เดินง่ายมาก แต่ถ้าภูเขามันตีบๆ เรียวคมเกินไป หรือเป็นแอ่ง ก็เดินลำบาก อย่างนั้นเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ ดังนั้นคนที่จมูกไม่สวย ก็ต้องเตรียมตัวว่า ต่อไปถ้ามีเงินก็ให้เก็บเป็นพวกทรัพย์สินดีกว่า ถ้าเป็นเงินสดจะเก็บไม่อยู่ พอได้มาก็หมดไป”
ตำแหน่งที่5 : ปาก ปากใหญ่ชนะเลิศ ถึงไม่สวย แต่รวย! | |||
“ถ้าผู้หญิงมีริมฝีปากอิ่ม ถือว่าดี เพราะเชื่อว่า เมื่อปากใหญ่ ก็คือ กินเหยื่อคำใหญ่ๆ หาเงินเก่ง เจรจาเก่ง โน้มน้าวจิตใจคนให้คล้อยตามง่ายๆ แต่ก็อย่ากว้างเกินไป ต้องดูสัดส่วนบนใบหน้าด้วย ส่วนมากดารา ปากเป็นรูปกระจับหมดเลย เพราะเขาโน้มน้าวจิตใจคนเก่ง ส่วนปากสี่เหลี่ยม เป็นลักษณะที่ดีมาก จริงๆ ริมฝีปากเรา ต้องคล้ายกับปากวัว ปากม้า ถึงจะดี ปากสี่เหลี่ยมไม่สวย แต่มันดี แต่ก็หายากมากเหมือนกัน ต้องไปดูชาวบ้าน ในต่างจังหวัด ที่คนปากแบบนี้เขาจะรักษาคำพูด คำไหน คำนั้น พูดคำตอบคำ แต่จริงใจ” อ.สุวิมลกล่าวว่า ริมฝีปากที่ดี คือ ริมฝีปากล่างกับบนต้องอิ่มพอๆ กัน “ไม่ใช่ข้างบนบาง ข้างล่างหน้าเตอะ เป็นลักษณะคนขี้งอน ขี้ใจน้อย หรือบางทีวาจาคำพูดเฉือดเฉือนคน” สรุปแล้ว ภาพรวมของหญิงสาวโหงวเฮ้งดีก็คือ หน้าผากใหญ่ ขมับกว้าง ตาเล็กเฉียงขึ้น แก้มใหญ่อวบอิ่ม ริมฝีปากใหญ่ จินตนาการตาม หลายคนอาจนึกไม่ออกว่า จะสวยเหรอ? ซึ่งอ.สุวิมล ตอบย้ำประเด็นนี้ว่า ส่วนใหญ่ที่เราพบเห็นคนโหงวเฮ้งดี ไม่จำเป็นต้องเป็นคนสวย (แต่ก็รวยได้) ทว่าบางคนโชคดีกว่านั้น โหวงเฮ้งดีแล้วหน้าตาก็สวยด้วย อ.สุวิมลบอกเราว่า นึกถึงอดีตนางเอกคนดังที่ผันตัวเองเป็นเจ้าของไร่องุ่น สุพรรษา เนื่องภิรมย์ ค่ะ ..น่าอิจฉามิใช่น้อย นอกจากสวยแล้วยังโหวงเฮ้งดีด้วย |
*แม้จะครบ 5 ตำแหน่งอวัยวะสำคัญไปแล้วไป ทว่าอ.สุวิมลให้ข้อมูลแถมอีกค่ะ ซึ่งสามารถนำมาดูประกอบกันได้ คิ้ว อ.ย้ำ ก่อนเลยว่า ต้องเป็นคิ้วธรรมชาติ ก่อนแว็กซ์ หรือสักคิ้ว พื้นฐานของคิ้วผู้หญิงที่ดีก็คือ คิ้วนุ่มนวล อ่อนหวาน ไม่ใช่หนาเตอะ คมเข้ม เพราะนั่นมันคือ คิ้วผู้ชายที่ต้องบู๊งานหนักค่ะ “ผู้หญิงคือ ความนุ่มนวล ดังนั้นคิ้วก็ควรเป็นคิ้วที่นุ่มนวล ถ้าผู้หญิงคิ้วหนา ก็คือต้องบู๊ ต้องลุย ผู้หญิงคนไหนคิ้วหนา อาจจะไม่ชอบงานที่ต้องนั่งเฉยๆ ชอบไปลุยงาน ออกไปทำงานติดต่อประสานงานที่ต่างๆ นอก จากนี้คิ้วบ่งบอกเรื่องของญาติด้วย บางคนคิ้วบางสั้น เล็กนิดเดียว แบบนั้นมีพี่น้องมาก ก็เหมือนมีพี่น้องน้อย ไม่ค่อยรักใคร่ กลมเกลียวสามัคคีกัน” ส่วนความเชื่อของสาวๆ ที่ว่า การเขียนคิ้ว กันคิ้ว หรือสักคิ้ว ให้ได้รูปสวยงามนั้นจะช่วยเสริมบุคลิกให้ดีขึ้น ..จริงหรือไม่ เราถือโอกาสถาม อ.เลยค่ะ “การกันคิ้วช่วยไม่ได้หรอกค่ะ แม้เดี๋ยวนี้ผู้หญิงชอบกันคิ้ว สักคิ้ว จนจำคิ้วตัวเองแทบไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร มันอาจจะช่วยให้บุคลิกดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันก็ต้องมีบ้าง บางทีเวลาเราออกสังคม จะให้ตาเราโลน คิ้วรก ออกมามันก็ไม่ดี ดังนั้นมันก็ต้องมีบ้าง เพียงแต่จะบอกว่า คิ้วมันเป็นโหงวเฮ้งที่บ่งบอกความเป็นตัวของเราซึ่งธรรมชาติให้มา อย่างไรพื้นฐานเดิมเป็นอย่างไร ดวงก็เป็นอย่างนั้น มันเปลี่ยนไม่ได้” | ||||
“ผู้หญิงคนไหนถ้าพวงแก้มเต็ม อิ่ม แล้วลากยาวไปถึงคาง เรียกว่า แก้มคุณหญิงคุณนาย แก้มเถ้าแก่เนี้ย ไปดูวันที่ 5 ธันวาคมสิคะ พวกคุณหญิงตราตั้ง รับเครื่องสะพายน่ะค่ะ คนเหล่านี้มีโหงวเฮ้งเสริมให้คู่ครองมีตำแหน่งค่ะ พอคู่มีตำแหน่งเสร็จ ตัวเองก็กินตำแหน่งคุณหญิงคุณนายไปด้วย ผู้หญิงที่มีแก้มลักษณะนี้ ก็เช่น คุณโอ๋ ภัคจีรา ที่ตอนนี้เป็นสะใภ้ร้านทองไปแล้ว จะเห็นได้ว่าแก้มเธออิ่มมาก (จมูกด้วยค่ะ น่าอิจฉาจัง) หรือคุณพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยาท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ลักษณะนี้ถือว่าแก้มคุณหญิงคุณนายค่ะ แต่บางคนมีแก้มอิ่ม แต่มีเส้นคาดไปที่รอยแก้ม อันนี้เรียกรอยแก้มแตก พอรอยแก้มแตกแบบนี้ จะมีปัญหาก็คือ มักจะถูกเบียดเบียนเรื่องเงิน และบริวารไม่ได้อย่างใจ หมายถึงมีลูก หรือบริวารลูกน้อง ก็ไม่ค่อยได้อย่างใจ” สำหรับสาวที่มีลักยิ้ม อ.สุวิมลถือว่า มีเสน่ห์รวมทั้งคนที่ใบหน้าอุดมไปด้วยสิว ตามหลักโหงวเฮ้งบอกว่า ไม่เป็นไร เพราะเป็นไปตามช่วงอายุ “แต่ถ้าหน้าขึ้นฝ้าดำปื้นๆ อย่างนี้ไม่ดี เหมือนกับท้องฟ้าที่ครึ้มๆ จะไม่ค่อยดี จะมีเรื่องให้เราต้องปวดหัว ดังนั้นต้องแก้ไข รักษาฝ้าด้วย” เสียง โหง วเฮ้งทางเสียงดี ต้องมีเสียงที่ฟังดูแล้วใสๆ เหมือนเสียงระฆังใสกังวาน ตรงกันข้าม ถ้าเสียงแหบใหญ่เหมือนผู้ชายก็ต้องทำงานเหมือนผู้ชาย ถือว่าไม่ดี “นักร้องบางคนร้องเพลงไพเราะ น่าฟัง แต่พอพูดแล้วเสียงแหบๆ แปลได้ว่า เป็นคนอาภัพรัก หรือบางคนพูดแล้ว เสียงสั่นเหมือนคนร้องไห้ พวกนี้บางทีอายุไม่ยืนยาว แต่ตรงนี้เราฝึกได้” อ.สุวิมลบอกให้ไปฝึกการใช้เสียง | ||||
“ลักษณะนี้แก่ตัวไปไม่ลำบาก มีกินมีใช้อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ฟันเหยินออกมาข้างนอก ฟันของคนเราต้องอยู่ในปาก และเรียงเสมอกันถึงจะดี ยิ่งฟันเหยินออกมาเยอะๆ แทบหุบไม่ได้ อย่างนี้ชีวิตค่อนข้างลำบาก” อ.ว่าถึงไปจัดฟัน ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ต้องเป็นฟันธรรมชาติ “แต่ถ้าคนไหนมีฟันล่างครอบฟัน บน อย่างคุณอัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ ยิ่งแก่ตัว ยิ่งดี รวมถึงเป็นคนเก่ง ฉลาด ทำงานแคล่วคล่องว่องไวด้วย" นิ้วมือ นิ้วมือผู้หญิงคนไหนเรียวๆ ยาวๆ ปลายนิ้วแหลมๆ พวกนี้ไม่ชอบทำงานบ้าน “ถ้านิ้วป้อมๆ เล็ก สั้น แล้วฝ่ามือหนาๆ อิ่มๆ ใหญ่ๆ เป็นฝ่ามือคนมีเงิน ถือว่าดี แต่ถ้านิ้วมือเหมือนกับนิ้วเท้าที่ขาไก่ มีแต่กระดูก พวกนี้ต้องลำบากตรากตรำ ส่วนคนที่นิ้วก้อยสั้นกว่าขีดข้อนิ้วนาง ชีวิตต้องเหน็ดเหนื่อยต้องฟันฝ่า บางครั้งนักพยากรณ์หลายคนจะแนะนำให้ไว้เล็บขึ้นมาให้ถึงข้อของนิ้วนาง มันก็เป็นกุศโลบาย ให้เรามีความอดทน เมื่อเรามีความอดทน(ไว้เล็บ) ชีวิตเราก็จะมีความอดทน เป็นกุศโลบายแก้เคล็ด แต่ก็ไม่ได้ช่วยได้ 100% เพราะธรรมชาติฐานนิ้วเราเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว” ::อ.สุวิมล ฝากบอก | ||||
- จึงไม่แนะให้สาวที่ทำศัลยกรรมมาแล้วไปดูโหวงเฮ้ง เพราะคำทำนายจะไม่ตรง หากอยากเช็กดวง เลือกไปดูลายมือ หรือทำนายจากวันเดือนปี เกิด แทน ..เป๊ะกว่า - หลักการง่ายๆ แว้บแรกที่จะทราบว่าผู้หญิงคนไหนมีโหงวเฮ้งดี คือ เมื่อมองหน้าแล้วรู้สึกสบายตา ไม่ขัดตา ยิ่งมองยิ่งอยากคุยด้วย - ผู้หญิงที่เกิดมาผิวดี ผิวละเอียด จะเป็นอีกหนึ่งโหวงเฮ้งที่บอกได้ว่า สาวคนนั้นโหวงเฮ้งดี เกิดมาสบายไม่ต้องลำบากลำบน ทนทำงานหนัก - ผู้หญิงสวยก็คือ มีเสน่ห์ แต่ผู้หญิงที่โหงวเฮ้งดี อาจไม่ใช่เป็นคนสวย สังเกตเถ้าแก่เนี้ยร้านทองได้เลย หน้าบาน ปากใหญ่ จมูกใหญ่ ไม่สวยแต่รวยทรัพย์จ้า |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น